เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐสภายุโรปได้ส่งหนังสือเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ไปแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในไทยที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม หรือเมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศสว่า
สถานทูตไทยประจำกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และผู้แทนสหภาพยุโรป(อียู)ในไทยได้ตรวจสอบหนังสือเชิญดังกล่าวแล้วว่าเป็นของจริง ซึ่งเชิญโดยนายเอลมา บร็อก กับนายแวร์เนอร์ แลงเกิน ซึ่งเป็นสมาชิกรัฐสภายุโรป แต่เป็นการเชิญในนามส่วนตัว เพราะหนังสือเชิญระบุเพียงชื่อและลายเซ็นผู้เชิญเท่านั้น ไม่ได้ลงรายละเอียดตำแหน่งกำกับท้ายชื่อผู้เชิญ ดังนั้นจึงไม่ใช่การเชิญในนามสหภาพยุโรป ฝ่ายการเมืองหรือคณะกรรมาธิการสภายุโรปแต่อย่างใด
นายเสข กล่าวว่า สมาชิกสภายุโรปสามารถเชิญบุคคลมาหารือได้ ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ขณะที่สนธิสัญญาลิสบอน ซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานของก่อตั้งสหภาพยุโรปไม่ได้ให้อำนาจรัฐสภายุโรป ในการกำหนดนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปหรือกำหนดมาตรการใดๆ ดังนั้นการดำเนินการของรัฐสภายุโรปซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัตินั้นเป็นอิสระแยกออกจากฝ่ายการเมือง
นายเสข กล่าวอีกว่า ฝ่ายไทยโดยสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเบลเยียม ซึ่งเป็นคณะผู้แทนไทยประจำอียู ก็ยังคงจะชี้แจงประเด็นที่รัฐสภายุโรปแสดงความห่วงกังวลผ่านทุกช่องทางอย่างต่อเนื่องต่อไป
Source: Sanook.com
0 Komentar