จับแม่ผัวโหด จ้างฆ่าสะใภ้ แจ้งตายหนีคดี ศาลสั่งประหาร

18 พ.ย. 58  09:09 น.

          แม่ผัวโหด - นางจุรี จันทร์งาม ก่อเหตุจ้างฆ่าลูกสะใภ้ท้อง 3 เดือน ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อปี" 50 แล้วแจ้งตายเพื่อหนีคำสั่งศาลอุทธรณ์ตัดสินประหาร มอบตัวกับตร.กองปราบฯ หลังศาลฎีกาลดโทษเหลือคุกตลอดชีวิต เมื่อ 17 พ.ย.

แม่ผัวโหดแจ้งตาย หนี คำพิพากษาศาล เข้ามอบตัวแล้วหลังถูกกดดันหนัก ตร.เผยลูกสาวมาแจ้งศาลว่าแม่ตายระหว่างประกันตัวในชั้นฎีกา คดีจ้างวานฆ่า แต่ฝ่ายโจทก์ไม่เชื่อ ร้องตร.ตรวจสอบ ก่อนพบยังมีชีวิตอยู่ และออกล่าตัวจนตัดสินใจมอบตัว เตรียมขยายผลเอาผิดคนออกใบมรณบัตรปลอม


เมื่อ เวลา 11.30 น. วันที่ 17 พ.ย. ที่กองปราบปราม พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. แถลงการเข้ามอบตัวของนางจุรี จันทร์งาม อายุ 72 ปี อยู่ หมู่2 ต.นา กระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ สช.75/2558 ลงวันที่ 24 มี.ค. 2558 ข้อหาจ้างวานฆ่าผู้อื่น และความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน โดยศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ใช้อุบายแจ้งต่อศาลว่าเสียชีวิตเพื่อหลบหนีคดี และติดต่อขอเข้ามอบตัว


พล.ต.ต. อัคราเดชกล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2550 มีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิงน.ส.ริ้วแพร โชติการ อายุ 26 ปี เภสัชกรโรงพยาบาลควนเนียง ซึ่งขณะนั้นผู้ตายกำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนเสียชีวิต เหตุเกิดภายในคลินิกเวชกรรมในพื้นที่ อ.ควนเนียง จ.สงขลา นอกจากนี้ยังทำให้นายอดิศร์ ประทีปทัศน์ พนักงานจัดยาเสียชีวิตไปด้วยอีก 1 ราย ต่อมาตำรวจภูธร จ.สงขลา สามารถจับกุมนายนรินทร์ จันทร์ฉาย อายุ 36 ปี และนายจำนง คงสุวรรณ อายุ 40 ปี มือปืนได้ ทั้งสองซัดทอดนางจุรีเป็น ผู้จ้างวานเป็นเงิน 500,000 บาท


พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวต่อว่า เนื่องจากนางจุรีไม่ต้องการให้ผู้ตายมาแต่งงานกับนายวิกรม จันทร์งาม อายุ 36 ปี บุตรชายคนเดียวของตระกูล ซึ่งขณะนั้นกำลังเตรียมจัดงานแต่งงานกับผู้ตายในวันที่ 29 ธ.ค. 2550 เนื่องจากเห็นว่าฐานะทางบ้านของฝ่ายหญิงไม่คู่ควรกับบุตรชายของตนเองที่มี ฐานะระดับเป็นเศรษฐีของเมืองหาดใหญ่ มีหน้ามีตาในพื้นที่ ถึงกับเอ่ยปากว่าหากไม่ล้มเลิกงานแต่งงานก็คงได้จัดงานศพแทน จนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น


พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวอีกว่า หลังจับกุมนางจุรีดำเนินคดี ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษประหารชีวิต จนถึงชั้นศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น นางจุรีได้วางหลักทรัพย์มูลค่า 5 ล้านบาท เพื่อขอประกันตัว และคดีอยู่ในชั้นฎีกา กระทั่งเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2557 น.ส.รัศมี จันทร์งาม บุตรสาวของนางจุรีได้ ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสงขลา เพื่อขอจำหน่ายคดี และขอคืนหลักทรัพย์ที่ใช้ประกันตัวมารดา โดยอ้างว่านางจุรีได้ถึงแก่ความตาย


พล.ต.ต. อัคราเดชกล่าวอีกว่า ต่อมานางฤดีมาศ สิงห์มณี อายุ 55 ปี มารดาของน.ส.ริ้วแพรเข้าร้องเรียนที่กองปราบฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากเชื่อว่านางจุรียังไม่เสียชีวิต จากการสืบสวนก็น่าเชื่อว่านางจุรีน่าจะยังไม่เสียชีวิต


พล.ต.ต. อัคราเดชกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนทราบข้อเท็จจริงว่าไม่เคยมีการจัดงานศพนางจุรี และก็ไม่มีพยานรายใดพบเห็นศพนางจุรี สาเหตุที่มีการออกใบมรณบัตรนั้น ทางฝ่ายปกครองอ้างเหตุผลว่ามีใบรับรองการตายจากผู้ใหญ่บ้าน จึงต้องทำไปตามระเบียบของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย


ผบก.ป.กล่าว ต่อว่า หลังจากนั้นศาลฎีกาจังหวัดสงขลา ได้มีคำสั่งไต่สวนการตายของนางจุรี จนทราบเป็นที่แน่ชัดแล้วว่านางจุรียังไม่ได้ถึงแก่ความตายตามที่กล่าวอ้าง โดยเชื่อว่านางจุรีมีพฤติกรรมจงใจหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา และอ่านคำพิพากษาลับหลัง ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง แต่นายวิกรมบุตรชายของจำเลยให้การเป็นประโยชน์จึงเป็นเหตุบรรเทาโทษให้แก่ จำเลย โดยคงลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายนรินทร์จำเลยอีกราย ศาลพิพากษาให้ประหารชีวิต


พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า หลังจากถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก ในที่สุดทางญาติของนางจุรีก็ได้ประสานมาว่านางจุรีรู้สึกสำนึกผิด พร้อมกับขอเข้ามอบตัวดังกล่าว แต่นางจุรียังคงให้การปฏิเสธในคดีจ้างวานฆ่า โดยระบุว่าเป็นฝ่ายถูกใส่ร้าย


รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. เตรียมเชิญตัวนายสมพจน์ นวลพงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นผู้รับรองการเสียชีวิตของนางจุรี และนายอาคม ตรงอิทธิกุล หรือ "โกคิ้ม" หัวหน้ามูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ซึ่งเป็นผู้นำหนังสือรับรองการเสียชีวิตของนางจุรีไปยื่นให้ที่วัดมาสอบสวน ด้วย

Soorce: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1447813412

Previous
Next Post »
0 Komentar